E-business infrastructure
E-business infrastructure
หมายถึงการรวมกันของฮาร์ดแวร์เช่น Server, Client PC ในองค์กร รวมถึงการใช้เครือข่ายในการเชื่อมโยงฮาร์ดแวร์เหล่านี้และการใช้งานซอฟต์แวร์ ที่ใช้ในการส่งมอบบริการให้กับผู้ใช้งานที่อยู่ในบริษัทและยังรวมถึงคู่ค้าและลูกค้า ของตน ซึ่งคำว่า Infrastructure ยังรวมไปถึงสถาปัตยกรรมทางด้านHardware , Software และ เครือข่าย ที่มีอยู่ในบริษัทด้วย และท้ายที่สุด ยังรวมไปถึง กระบวนการในการนำเข้าข้อมูลและเอกสารเข้าสู่ระบบ E-business ด้วย
ส่วนประกอบของโครงสร้างพื้นฐาน E-business infrastructure components
1. Application - ไม่สนใจว่าจะใช้อะไร,เป็นการจัดการให้ประสบความสำเร็จ2. Software - Web,linux,database / ใช้ Software อะไรในการจัดการบริหาร3. Transport - ติดต่อสื่อสาร,Protocal,TCP/IP4. Storage - ใช้เก็บข้อมูลต่างๆ ,ฮาร์ดดิส,แรม เก็บไว้ที่ไหนอย่างไร5. Content and Data - การจัดการบริหาร,Intranet,Extranet
เว็บเบราว์เซอร์ (web browser)
เบราว์เซอร์ หรือ โปรแกรมดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะเช่น ภาษาเอชทีเอ็,แอล(html)
เช่น
Internet Exlorer |
Mozilla Firefox |
Google Chrome |
เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server)
เครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งให้บริการที่เก็บเว็บไซต์ (Server) แล้วให้ผู้ใช้ (Client) เรียกชมหน้าเว็บไซต์ได้โดยใช้โพรโทคอล HTTP ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์วิวัฒนาการของเว็บ 1.0, Web 2.0 Web 3.0
Web 1.0
1.ผู้เข้าชมสามารถอ่านได้อย่างเดียว ( Read-only )
2.สามารถแก้ไขข้อมูล หน้าตาของเว็บไซต์ได้เฉพาะผู้ดูแลเว็บไซต์ ( Web master )
3.ใช้ภาษา html (Hyper Text Markup Language)
Web 2.0
1. ผู้เข้าชมสามารถอ่านและเขียนได้ ( Read-Write )
2.พัฒนาต่อจาก web 1.0 เป็นเทคโนโลยีเว็บไซต์ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้
web 3.0
1.ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง (view ,create ,copy ,share etc.) ได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วย อุปกรณ์ใดๆที่ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
2.การพัฒนาให้มี ความฉลาดรู้ หรือ มี AI (Artificial Intelligence)
3.สามารถค้นหา และคาดเดาความต้องการของผู้บริโภค แต่ละคนได้ อุปกรณ์ไอที Gadget ต่างๆ
จุดเด่นของ Blog
- เป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อกและผู้อ่านที่ เป็นกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน
- มีความสะดวกและง่ายในการเขียน Blog ทำให้สามารถเผยแพร่ความคิดเห็นของผู้เขียน blog ได้ง่ายขึ้น
- Comment จากผู้ที่สนใจเรื่องเดียวกันบางครั้งทำให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ
Wiki
สามารถสร้างและแก้ไขหน้าเว็บเพจขึ้นมาใหม่ผ่านทางบราวเซอร์ โดยไม่ต้องสร้างเอกสาร html เหมือนแต่ก่อนWiki เน้นการทำระบบสารานุกรม, HOWTOs ที่รวมองค์ความรู้หลายๆ แขนงเข้าไว้ด้วยกันโดยเฉพาะ
Instant Messaging
เป็นการอนุญาตให้มีการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลบนเครือข่ายที่เป็นแบบ relative privacyตัวอย่างเช่น Gtalk , Skype , Meetro , ICQ , Yahoo Messenger , MSN Messenger และ AOL Instant Messenger เป็นต้น
Folksonomy(ปัจเจกวิธาน)
การจัดกลุ่มการจัดระเบียบและค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตโดยทั่วไปมี 3 แบบ คือ1. ค้นหาในเนื้อความ (Text Search)
2. เรียงเนื้อหาตามลำดับเวลา (Chronological)
3. แยกตามกลุ่มประเภท (Category, Classification)
ค้นหาในเนื้อความ (Text Search)
ตัวอย่างเช่น Google ที่ก่อตั้งโดย Sergery Brin และ Larry Page ได้ออกแบบเพื่อจัดอันดับความสำคัญของเว็บโดยคำนวณจากการนับ Link จากเว็บอื่นที่ชี้มาที่เว็บหนึ่ง ๆ
- เป็นที่น่าติดตามว่าจะมีเทคนิควิธีในการค้นหาข้อมูลใหม่ ๆ
- ปัญหาที่เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต มีดังต่อไปนี้
- เนื้อหามีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วรายวัน
- การค้นหาข้อมูลที่ตรงตามความต้องการมากที่สุดทำได้ยาก เนื่องจากเนื้อหาที่มีจำนวนมาก
- การค้นหาข้อมูลเฉพาะด้านที่ขึ้นกับความสนใจของผู้ทำการค้นไม่ตรงจุด
- ข้อมูลที่พบอาจจะขาดความน่าเชื่อถือ
Networking standards
เป็นขบวนการที่เกี่ยวข้องกับทุกๆ protocol & procedure และระเบียบแบบแผนต่างๆ ที่ใช้ในระบบอินเตอร์เน็ต
TCP/IP
คือ ข้อตกลงในการควบคุมการรับส่งข้อมูล และ internet หรือ protocol ของระบบ internet Transmission Control Protocol/Internet Protocol
The HTTP protocol
HTTP มาจากคำว่า Hypertext Transfer Protocol ซึ่งเป็น protocol ที่ใช้ในการส่งเดต้าต่าง ๆ ในโลกของ World Wide WebUniform resource locators (URLs)
คือ ตัวระบุแหล่งทรัพยากรสากล (URI) ประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้สำหรับระบุแหล่งที่อยู่ของทรัพยากรที่ต้องการ และมีกลไกบางอย่างสำหรับดึงข้อมูลทรัพยากรนั้นมายูอาร์แอลอาจหมายถึง ที่อยู่บนเว็บ หรือที่อยู่อินเตอร์เน็ตก็ได้ ซึ่งปกติแล้วเรามักพิมพ์ยูอาร์แอลในแถบที่อยู่ของเว็บเบราว์เซอร์เพื่อเรียกข้อมูลจากเว็บไซต์
สรุปบทที่ 3 E- ENVIRONMENT
Business Environment
นักปราชญ์ชาวจีนนาม ซุนวู ได้กล่าวไว้ในตำราพิชัย
สงครามว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” คำกล่าวนี้จึง
ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดแผนกลยุทธ์เพื่อการ
จัด ก า ร ธุร กิจ ก า ร ที่จ ะ “ รู้เ ข า ” ไ ด้นั้น จ ะ ต้อ ง ศึก ษ า
สภาพแวดล้อมภายนอกเสียก่อน ส่วนการ “รู้เรา” ก็คือ
การศึกษาสภาพแวดล้อมภายในเป็นลำดับถัดมานั่นเอง การ
แข่งขันกันในเชิงธุรกิจผู้ที่จะชนะและสามารถครอบครองตลาด
ได้นั้นจึงจำ เป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการศึกษาวิเคราะห์
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจทั้งภายนอกและภายในก่อนการลง
สนาม
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน
สภาพแวดล้อมภายนอกธุรกิจ Internal Environment คือ
สภาวะแวดล้อมที่ธุรกิจสามารถควบคุมได้
สภาพแวดล้อมภายในธุรกิจ External Environment ภาวะ
แวดล้อมที่ธุรกิจไม่สามารถควบคุมได้ ปัจจัยกลุ่มนี้
1. Strengths (S) : จุดแข็ง จุดเด่น ขององค์กร 2. Weaknesses (W) : จุดอ่อน ข้อเสียเปรียบขององค์กร
3. Opportunities (O) : โอกาสในการดำเนินงานตามแผนงาน
4. Threats (T) : อุปสรรคที่อาจเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการดำเนินงาน
Social Factor
สภาวะแวดล้อมทางสังคมเป็น ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการ
ตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมาก เนื่องจากโครงสร้างทางสังคมประกอบ
ไปด้วย ครอบครัว ชุมชน ไปจนถึงระดับประเทศ
Political and Legal Factor
สภาวะแวดล้อมทางการเมืองและกฎหมาย เป็นปัจจัยสำคัญที่
ส่งผลกระทบต่อนโยบายประกอบธุรกิจของประเทศ
สวัสดีครับ ผมพึ่งเข้ามาอ่านเจอบล็อกที่คุณเขียนไว้ ก็ได้ความรู้เพิ่มเติม แต่ติดในบทที่ 2
ตอบลบสภาพแวดล้อมภายนอกธุรกิจ Internal Environment คือ สภาวะแวดล้อมที่ธุรกิจสามารถควบคุมได้
สภาพแวดล้อมภายในธุรกิจ External Environment ภาวะแวดล้อมที่ธุรกิจไม่สามารถควบคุมได้ ปัจจัยกลุ่มนี้
**2 หัวข้อนี้สลับกันหรือเปล่าครับ Internal / External (ภาษาไทย)**